ขงเบ้งคือยอดอัจฉริยะแห่งยุคสามก๊ก มีสติปัญญาความรู้กว้างขวางราวกับเป็นผู้วิเศษ ทำการสิ่งใดก็รอบคอบ กลอุบายของเขาถูกต้องแม่นยำ จนได้รับสมญาว่าผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร แต่กระนั้นขงเบ้งก็ยังมีข้อตำหนิอยู่หลายเรื่อง อาทิเช่นการปกครองบังคับบัญชา การเลือกใช้คนอย่างม้าเจ็ก การตราหน้าอุยเอี๋ยนว่ากบฏ และการที่ไม่สามารถบุกยึดวุยก๊กได้เลยจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
ในการบุกตีวุยก๊กครั้งที่ 2 เป็นศึกที่ขงเบ้งต้องเสียหน้ามากที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะเขาต้องเสียศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งอับอายที่กองทหาร 300,000 นาย ไม่อาจตีค่ายเล็ก ๆ อย่าง "ตันฉอง" ที่มีทหารประจำการเพียง 3,000 นาย เพราะค่ายนี้ปกครองบัคับบัญชาโดยนายทหารคนสำคัญ "เฮ็กเจียว"
ขงเบ้งคือยอดอัจฉริยะแห่งยุคสามก๊ก มีสติปัญญาความรู้กว้างขวางราวกับเป็นผู้วิเศษ ทำการสิ่งใดก็รอบคอบ กลอุบายของเขาถูกต้องแม่นยำ จนได้รับสมญาว่าผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร แต่กระนั้นขงเบ้งก็ยังมีข้อตำหนิอยู่หลายเรื่อง อาทิเช่นการปกครองบังคับบัญชา การเลือกใช้คนอย่างม้าเจ็ก การตราหน้าอุยเอี๋ยนว่ากบฏ และการที่ไม่สามารถบุกยึดวุยก๊กได้เลยจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตขงเบ้งกับทหารสามแสน ยังทำอะไรชายผู้นี้ไม่ได้
ในการบุกตีวุยก๊กครั้งที่ 2 เป็นศึกที่ขงเบ้งต้องเสียหน้ามากที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะเขาต้องเสียศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งอับอายที่กองทหาร 300,000 นาย ไม่อาจตีค่ายเล็ก ๆ อย่าง "ตันฉอง" ที่มีทหารประจำการเพียง 3,000 นาย เพราะค่ายนี้ปกครองบังคับบัญชาโดยนายทหารคนสำคัญ "เฮ็กเจียว"
ประวัติของเฮ็กเจียว
![]() |
เฮ็กเจียว หรือเฮกเจียว(Hao Zhao, 郝昭) |
เฮ็กเจียวเริ่มรับราชการเป็นเพียงนายทหารชั้นผู้น้อย อยู่รักษาเมืองโหไส (Hexi , 河西) เป็นระยะเวลาประมาณสิบปี เขาได้รับการยอมรับนับถือจากประชาชนพลเมือง และความเคารพยำเกรงจากชนเผ่าต่าง ๆ เป็นอย่างมาก
เมื่อขงเบ้งยกกองทัพมาบุกตีวุยก๊กครั้งที่ 2 สุมาอี้ได้เสนอให้พระเจ้าโจยอยสั่งการให้เฮ็กเจียวมาประจำการที่ตำบลตันฉอง เพราะสุมาอี้เชื่อมั่นในสติปัญญาของเฮ็กเจียวว่าจะสามารถรักษาค่ายนี้ได้แม้กำลังพลจะแตกต่างกันถึง 100 เท่า เพราะขงเบ้งยกทัพมาเต็มกำลังด้วยไพร่พลจำนวน 300,000 นาย ในขณะที่เฮ็กเจียวมีทหารอยู่ในค่ายเพียง 3,000
ขงเบ้งถูกเคี้ยว
![]() |
กองตำราด้านหลังไม่อาจช่วยขงเบ้งได้เลย |
ขงเบ้งไม่ฟัง แล้วให้อุยเอี๋ยนยกเข้าตี ผ่านไป 4-5 วัน อุยเอี๋ยนตีค่ายไม่แตก ขงเบ้งโมโหจึงด่าอุยเอี๋ยนอย่างเสียหายว่า "ตำบลตันฉองเพียงเท่านี้ยังตีมิแตก แล้วที่ไหนจะทำการใหญ่หลวงสืบไปได้เล่า" แล้วก็สั่งให้ทหารลากตัวอุยเอี๋ยนไปประหาร
กิมเซียง เห็นดังนั้นจึงขอชีวิตอุยเอี๋ยนไว้แล้วอาสาจะไปเจรจากับเฮ็กเจียวให้ยอมสวามิภักดิ์ เนื่องจากเคยรู้จักกันมาก่อน แต่กิมเซียงก็ไม่อาจกล่อมเฮ็กเจียวได้ เพราะเฮ็กเจียวเป็นคนหนักแน่นมั่นคง จงรักภักดีต่อพระเจ้าโจยอยอย่างสุดชีวิต เมื่อกิมเซียงเดินออกจากค่ายตันฉองเขาแหงนหน้าเห็นเฮ็กเจียวอยู่บนค่ายจึงพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง แต่เฮ็กเจียวได้ร้องตอบออกมาอย่างจับใจว่า
"อันประเพณีเรา เป็นข้าเจ้าแผ่นดินได้กินเบี้ยหวัดผ้าปีแล้ว ก็ตั้งใจภักดีสนองคุณเจ้าตราบเท่าสิ้นชีวิตจึงจะนับว่าเป็นชาย"
แล้วก็ไล่กิมเซียงไปให้พ้น ถ้ายังขืนดื้อดึงจะให้ทหารเอาเกาทัณฑ์ยิงให้ตาย กิมเซียงจึงกลับไปรายงานให้ขงเบ้งทราบ เมื่อแรกขงเบ้งก็โกรธที่เฮ็กเจียวโอหังดังจะดูถูกฝีมือ แต่เมื่อทราบว่าค่ายตันฉองมีทหารเพียง 3,000 ขงเบ้งก็หัวเราะชอบใจ ให้ทหารเตรียมบันได เชือก และศาสตราวุธให้พร้อม เพื่อบุกเข้าตีอย่างเต็มกำลัง
วันแรกขงเบ้งให้ทหารเอาบันไดพาดกำแพงค่าย ก็ถูกเฮ็กเจียวใช้ไฟเผา และถูกเกาทัณฑ์ระดมยิงจนต้องถอยทัพไป
วันที่สองขงเบ้งให้ทหารทำแตะบังตัวไม่ให้ถูกเกาทัณฑ์ เฮ็กเจียวก็เปลี่ยนกลยุทธ์ ใช้ก้อนศิลาผูกเชือกแล้วโยนเข้าใส่ โยนเสร็จก็สาวกลับขึ้นมาโยนใหม่ ทหารขงเบ้งถูกก้อนศิลาก็บาดเจ็บล้มตาย ต้องถอยทัพกลับไปอีก
ตกกลางคืนขงเบ้งให้เลียวฮัวขุดอุโมงค์ลอดใต้กำแพง มาแบบใต้ดิน แต่เฮ็กเจียวก็รู้ทันขุดหลุมสกัด ไม่ให้ทะลุกำแพงไปได้ ขงเบ้งรบกับเฮ็กเจียวอยู่ประมาณยี่สิบวัน ถ้อยทีถ้อยต้านทานกันอยู่ ทหารล้มตายเป็นจำนวนมาก ขงเบ้งก็วิตกกังวลเป็นอย่างมาก จึงต้องล้มเลิกแผนตีตันฉองและหันไปเตรียมการศึกทางด้านอื่นแทน
อวสานเฮ็กเจียว
![]() |
เฮ็กเจียวยืนตระหงานบนกำแพงเมือง น่าเกรงขามมาก |
นั่นเป็นเรื่องในวรรณกรรม แต่ในสมุดจดหมายเหตุเมืองวุย (Brief History of Wei) ได้บันทึกไว้ว่าเมื่อเฮ็กเจียวป่วยหนักเขาถูกนำตัวมายังเมืองลกเอี๋ยง ก่อนตายเขาได้กล่าวสั่งเสียไว้กับบุตร เฮ็กกาย (Hao Kai) ว่า
"ตัวข้าเป็นนายทหาร ข้ารู้ว่าสิ่งใดมิควรกระทำ ข้าเคยขุดสุสานทหารโบราณมากมาย เอาไม้เอาทรัพย์สินมาทำยุทธภัณฑ์ สุสานเหล่านี้หามีประโยชน์อันใดต่อผู้ตายไม่ จงแต่งกายให้ข้าด้วยอาภรณ์ธรรมดาสามัญ ยามเป็นคนเราอยากอยู่กับบ้าน แต่ยามตายอยู่แห่งไหนก็ไม่สำคัญ เจ้าอยากจะฝังศพข้าที่ใด ไกลหรือใกล้ เหนือหรือใต้ ออกหรือตก ก็แล้วแต่เจ้าเถิด"
สรุป
![]() |
เฮ็กเจียว ผู้เคี้ยวขงเบ้ง |
ในสมุดจดหมายเหตุเมืองวุยเขียนว่า ผลงานครั้งนี้ทำให้เฮ็กเจียวได้รับการเลื่อนชั้นเป็นพระยา และพระเจ้าโจยอยได้กล่าวยกย่องชมเชยเขาว่า "ประเทศชาติมีทหารกล้าเยี่ยงนี้ ข้าจะต้องกังวลอะไรอีก" อีกทั้งเมื่อเฮ็กเจียวตาย พระเจ้าโจยอยทรงโศกเศร้าเสียใจขนาดหนัก จนสุมาอี้ต้องปรามว่าเฮ็กเจียวเป็นเพียงสามัญชน ไม่ควรที่พระองค์ต้องรำลึกถึงขนาดนี้ ก็เป็นเครื่องยืนยันความสำคัญของบุคคลผู้นี้ได้อย่างดี
นี่ถ้าเฮ็กเจียวยังอยู่ ขงเบ้งคงถูกเคี้ยวเป็นจุลย์...
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง