Loading ...

$show=home

จุดเริ่มต้นของการศึกษาสามก๊ก

แหล่งศึกษาเรียนรู้ ทุกเรื่องราวของวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลก

สามก๊กวิทยา : THREE KINGDOMS ACADEMY

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่อาณาจักร
"สามก๊กวิทยา"
THREE KINGDOMS ACADEMY

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 60

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 60
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 60

เนื้อหา

• โจโฉยุให้ซุนกวนตีเมืองเกงจิ๋ว
• ซุนกวนได้เมืองเกงจิ๋วแลหัวเมืองขึ้น
• โจโฉตีทัพกวนอูแตก


ขณะ นั้นฝ่ายม้าใช้ซึ่งไปสืบราชการ จึงเอาข่าวไปทูลแก่พระเจ้าวุยอ๋องซึ่งอยู่ ณ เมืองฮูโต๋ว่า บัดนี้กองทัพซึ่งยกไปช่วยเมืองอ้วนเสียนั้นพ่ายแพ้ กวนอูจับเอาอิกิ๋มไปได้ ฆ่าบังเต๊กถึงแก่ความตายไพร่พลก็สิ้น พระเจ้าวุยอ๋องครั้นแจ้งดังนั้นก็ตกพระทัยนัก จึงให้หาขุนนางทั้งปวงเข้ามาปรึกษาว่า กวนอูนั้นเปนคนดีมีวิชาชำนาญในการศึก บัดนี้ก็จับอิกิ๋มไปได้ซ้ำฆ่าบังเต๊กถึงแก่ความตายแล้ว ถ้าเขาจะยกมารบเมืองเรา ๆ จะคิดยักย้ายหนีเสียก่อนหรือ ๆ จะคิดประการใดดี

สุมาอี้จึงทูลว่าข้าพเจ้าทราบอยู่ว่า ซึ่งอิกิ๋มเสียแก่กวนอูนั้นใช่จะแพ้ในขบวรรบหามิได้ แพ้เพราะน้ำมากหารู้ที่จะทำการไม่ บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าซุนกวนซึ่งอยู่ ณ เมืองกังตั๋งนั้น ก็หาชอบกันกับเล่าปี่ไม่ ซุนกวนก็จะไม่มีความสบาย กลัวกวนอูจะยกไปตีเอาเมือง ขอพระองค์จงแต่งทหารไปยุยงซุนกวนให้มีความโกรธ ให้ยกไปรบเอาเมืองเกงจิ๋ว ถ้าซุนกวนได้เมืองเกงจิ๋วแล้ว เราก็จะยกที่กังหลำทิศใต้ให้แก่ซุนกวน เห็นว่าเมืองอ้วนเสียนั้นจะพลอยรอดด้วย

ฝ่ายเจียวเจ้สมุห์บาญชีจึงทูลพระเจ้าวุยอ๋องว่า ซึ่งถ้อยคำสุมาอี้ว่านี้ควรอยู่แล้ว ขอท่านจงกระทำตามเถิด แลซึ่งท่านคิดว่าจะยักย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่นนั้นไม่ชอบ ไพร่บ้านพลเมืองก็จะเอิกเกริกเสียนํ้าใจ โจโฉได้ยินดังนั้นก็พิเคราะห์ดูเห็นชอบด้วย มิได้ยักย้ายทหารไป แล้วคิดรำพึงน้อยใจจึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า อิกิ๋มนี้แต่ทำการศึกมาด้วยเราก็ช้านานได้ถึงสามสิบปีแล้ว ควรหรือมาพ่ายแพ้ข้าศึกโดยง่ายฉนี้เล่า อันบังเต๊กเปนแต่ทหารมาอยู่ใหม่ ก็มานะทำสงครามจนตัวตาย เรานี้คิดขอบใจเขานัก แล้วเขียนหนังสือให้ทหารถือไปถึงซุนกวน ณ เมืองกังตั๋งตามคำสุมาอี้ทุกประการ แล้วจึงปรึกษาทหารทั้งปวงว่า ผู้ใดยังจะอาสาไปรบศึกกับกวนอูได้บ้าง

ซิหลงจึงทูลว่า ข้าพเจ้าจะขออาสาคุมทหารไปรบเอาชัยชนะแทนคุณท่านให้จงได้ โจโฉได้ฟังซิหลงว่าดังนั้นก็ดีใจ จึงจัดทหารให้ห้าหมื่น แล้วตั้งลิเตียนเปนปลัดทัพ ครั้นได้ฤกษ์ดีซิหลงลาพระเจ้าวุยอ๋อง แล้วยกทัพไปตั้งอยู่ตำบลที่ทุ่งเอียงเลงโผ คอยฟังข่าวคราวซุนกวนจะบอกมาเปนประการใด แล้วจึงจะยกกองทัพเข้าตีช่วยเมืองอ้วนเสีย

ฝ่ายซุนกวนครั้นรู้หนังสือโจโฉแล้วก็ดีใจ จึงให้ผู้ถือหนังสือนั้นกลับไปแจ้งแก่โจโฉว่า ซึ่งจะให้เราไปตีเมืองเกงจิ๋วนั้นเราก็จะไปตีตามคำท่าน แล้วจึงให้หาขุนนางมาพร้อมกันแล้วปรึกษาว่า โจโฉจะให้เราไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วนั้นจะเห็นประการใด เตียวเจียวจึงว่า ข้าพเจ้ารู้ว่าโจโฉใช้อิกิ๋มแลบังเต๊กยกทหารมาช่วยเมืองอ้วนเสีย ก็พ่ายแพ้แก่กวนอู บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่า โจโฉคิดย่อท้อกวนอูอยู่ แลซึ่งจะให้เราไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วให้ได้ ว่าจะยกตำบลกังหลำให้แก่เรานั้น ข้าพเจ้าเห็นหาจริงไม่ ซุนกวนครั้นปรึกษากันยังมิทันวายคำพอได้ยินว่า ลิบองซึ่งไปตั้งอยู่ด่านลกเค้านั้นมาด้วยเรือเร็ว จึงให้หาตัวเข้ามาแล้วถามว่า เจ้ามานี้ด้วยราชการประการใด

ลิบองบอกว่า กวนอูละเมืองเกงจิ๋วไว้ ยกกองทัพไปตั้งล้อมเมืองอ้วนเสียอยู่ทางไกล ควรเราจะเร่งยกทหารไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วเห็นจะได้โดยง่าย ซุนกวนจึงแกล้งว่าลองใจลิบองว่า เราคิดจะใคร่ไปตีเอาเมืองชีจิ๋วซึ่งขึ้นแก่โจโฉนั้นท่านจะเห็นประการใด ลิบองจึงว่า ซึ่งท่านจะไปตีเอาเมืองซิจิ๋วทิศเหนืออันเปนเมืองขึ้นของโจโฉนั้น ผู้คนก็น้อยเห็นพอจะได้อยู่ แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ซึ่งจะยกกองทัพไปนั้นเปนทางกันดารเดิรบกก็จะลำบากแก่ทหารทั้งปวง ถึงได้แล้วก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้ายกไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วเห็นจะดีกว่า ถ้าได้แล้วเราจึงค่อยคิดการต่อไป

ซุนกวนจึงว่า เราก็คิดจะใคร่ไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วอยู่ เราว่าทั้งนี้แกล้งจะดูทีเจ้า บัดนี้เจ้าจงเร่งช่วยเราคิดราชการซึ่งจะไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วก่อน เราจึงจะค่อยยกทัพไปต่อภายหลัง ลิบองรับคำซุนกวนแล้วก็ไปด่านลกเค้า

ฝ่ายม้าใช้รู้ว่าลิบองกลับมาแล้ว จึงเอาข่าวเข้ามาบอกว่า บัดนี้เมืองเกงจิ๋วคิดอ่านทำการให้ตั้งร้านไฟรายตามริมแม่น้ำ ห่างกันสองร้อยเส้นบ้างสามร้อยเส้นบ้าง มีคนรักษาอยู่มิได้ขาด ทั้งทหารในเมืองก็เตรียมไว้เปนกวดขัน ลิบองได้ยินดังนั้นก็ตกใจจึงรำพึงว่า ซึ่งเราว่าแก่ซุนกวนไว้ว่าจะรับไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว บัดนี้ทหารเขาตระเตรียมมั่นคงอยู่ ซึ่งจะไปทำการนั้นไม่ได้ เราจะคิดว่ากล่าวแก้ตัวซุนกวนประการใดจึงจะพ้นความเท็จเล่า แล้วจึงอุบายใช้ทหารไปบอกแก่ซุนกวนว่า บัดนี้ลิบองป่วยอยู่

ฝ่ายซุนกวนครั้นทหารมาบอกว่าลิบองป่วยดังนั้น ก็ไม่มีความสบาย ลกซุนจึงว่าแก่ซุนกวนว่า ซึ่งลิบองป่วยนั้นเปนอุบาย เห็นหาป่วยจริงไม่ ซุนกวนจึงว่า ที่จะรู้ว่าลิบองแกล้งทำป่วยนั้นเจ้าจงทำไปเยี่ยมดูให้รู้แน่ ลกซุนได้ฟังดังนั้นก็ลาไปถึงค่ายลกเค้าแล้วเข้าไปหาลิบอง เห็นหน้าลิบองชื่นบานหาป่วยจริงไม่ จึงบอกลิบองว่า บัดนี้ซุนกวนใช้ให้ข้าพเจ้ามาเยี่ยมท่านว่าท่านป่วยเปนประการใด

ฝ่ายลิบองจึงตอบว่า ป่วยครั้งนี้ก็ไม่สู้หนักนัก ลกซุนจึงว่า ซึ่งซุนกวนสั่งให้ท่านตระเตรียมทำการจะไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วนั้น เหตุใดท่านจึงนิ่งอยู่จะคิดประการใด ลิบองได้ฟังลกซุนรู้เท่าก็แลดูตาลกซุน แล้วนิ่งอยู่มิได้ตอบคำลกซุน ๆ จึงว่า ข้าพเจ้ามียาขนานหนึ่งจะรักษาไข้ของท่านให้หายได้ ท่านจะให้รักษาหรือประการใด ลิบองได้ยินลกซุนว่าดังนั้นจึงขับทหารทั้งปวงออกไปเสีย แล้วจึงถามว่าท่านจะรักษาเราด้วยยาสิ่งใด ลกซุนหัวเราะแล้วจึงว่า ซึ่งความเจ็บของท่านนั้นด้วยเหตุว่าเมืองเกงจิ๋วเขาตระเตรียมทหาร แล้วปลูกร้านไฟรายตามแม่นํ้า ป้องกันบ้านเมืองเปนมั่นคงอยู่ ท่านจึงคิดวิตกนักด้วยการสิ่งนี้ ข้าพเจ้ามีอุบายสิ่งหนึ่งอาจจะให้ทหารเมืองเกงจิ๋วซึ่งทำการรักษาเมืองนั้น ให้มาประนอมด้วยท่านมิให้ลำบากเลย ท่านจะเห็นประการใด

ลิบองได้ยินลกซุนว่าล่วงรู้ในความคิดก็ตกใจ จึงถามว่า ซึ่งอุบายของท่านจะคิดให้ชาวเมืองเกงจิ๋วมาประนอมด้วยเรานั้น ท่านได้อุบายประการใด ลกซุนจึงบอกว่า ซึ่งเมืองเกงจิ๋วตระเตรียมทหาร แลจัดแจงเมืองไว้ทั้งนี้ เพราะกวนอูคิดวิตกอยู่ด้วยท่านมาตั้งอยู่ที่นี่จึงไม่ไว้ใจ ถ้าท่านรู้อุบายทำเปนป่วยไปเสียจากที่นี้ แลจัดแจงให้ผู้อื่นมาอยู่แทนแล้วให้พูดสรรเสริญกวนอู ๆ ก็จะทะนงใจจะอยู่รบเอาเมืองอ้วนเสียให้ได้ไม่คิดระวังหลัง เราจึงคิดวกไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วก็จะได้โดยง่าย ลิบองได้ยินดังนั้นก็ดีใจ จึงว่าแก่ลกซุนว่า อุบายของท่านนี้ดีหนักหนา ลิบองก็ทำป่วยอยู่ จึงให้ลกซุนเอาหนังสือไปแจ้งแก่ซุนกวนว่า ข้าพเจ้าจะขอลาออกจากที่แล้ว ลกซุนจึงเอาหนังสือมาแจ้งแก่ซุนกวน

ซุนกวนครั้นแจ้งดังนั้นจึงให้หาลิบองกลับมารักษาตัว ลิบองก็เข้ามาหาซุนกวน ๆ จึงว่า แต่ก่อนจิวยี่มาว่าให้เราตั้งโลซกออกไปอยู่ที่ด่านลกเค้า ครั้นอยู่มาโลซกจึงมาว่า ให้ตั้งตัวท่านนี้ออกไปอยู่ แลบัดนี้ท่านสิป่วยอยู่ ก็ควรเราจะให้คนดีมีสติปัญญาออกไปอยู่แทนตัวท่าน ลิบองจึงว่า ซึ่งท่านจะให้คนดีออกไปอยู่นั้นฝ่ายกวนอูก็มิไว้ใจ จะให้รักษาเมืองมั่นคงไว้ อันลกซุนนี้ยังหาปรากฎชื่อลือนามไม่ ท่านจงให้ออกไปอยู่เถิดเห็นว่ากวนอูจะไว้ใจไม่ระวังหลัง ก็เห็นจะได้เมืองเกงจิ๋วดังความปราถนา

ฝ่ายซุนกวนได้ฟังดังนั้นก็ดีใจ จึงตั้งลกซุนเปนทหารแม่ทัพซ้าย ไปรักษาค่ายลกเค้าแทนลิบอง ลกซุนจึงว่า ข้าพเจ้าเปนเด็กหนุ่มยังหามีความรู้วิชาสิ่งใดไม่ ซึ่งจะให้ข้าพเจ้าไปอยู่รักษาค่ายลกเค้านั้นเห็นมิบังควร ซุนกวนจึงว่า ลิบองเขาบอกแก่เราว่าเจ้ามีความคิดลึกซึ้งเห็นจะได้ราชการอยู่ อย่าได้บิดพลิ้วไปเลย ลกซุนขัดมิได้ก็รับเอาตราออกไปรักษาค่ายลกเค้า

ครั้นวันหนึ่ง ลกซุนจึงให้คนถือหนังสือกับเครื่องบรรณาการไปถึงกวนอูว่า บัดนี้ซุนกวนให้ข้าพเจ้าออกมารักษาค่ายลกเค้าแทนลิบอง ข้าพเจ้าขัดมิได้ก็ออกมาอยู่ ขอท่านจงเปนที่พึ่งแก่ข้าพเจ้าด้วย กวนอูจึงถามผู้ถือหนังสือว่า ลิบองซึ่งรักษาอยู่ก่อนนั้นไปไหนเล่า ผู้ถือหนังสือจึงบอกว่า ลิบองนั้นป่วยอยู่ จึงให้ลกซุนออกมารักษาแทน กวนอูจึงว่า ซุนกวนนี้ก็เปนคนดี เหตุไฉนจึงใช้ให้ลูกเด็กออกมาอยู่ดังนี้ ผู้ถือหนังสือจึงว่า ลกซุนให้ข้าพเจ้าถือหนังสือกับสิ่งของทั้งปวงมาคำนับท่าน จะให้ท่านทั้งสองฝ่ายเปนไมตรีแก่กัน ขอท่านได้รับเอาสิ่งของทั้งนี้ไว้เถิด

ฝ่ายกวนอูครั้นรู้ว่าลกซุนถ่อมตัว ส่งสิ่งของแลหนังสือมาว่าฝากตัวดังนั้นก็หัวเราะ แล้วก็ให้ทหารรับเอาสิ่งของทั้งปวงไว้ ผู้ถือหนังสือก็กลับไปบอกแก่ลกซุนว่า กวนอูมีความยินดีนักเห็นจะไว้ใจหาเกรงซึ่งเมืองกังตั๋งจะมาตีไม่ ลกซุนก็ดีใจจึงแต่งทหารไปสอดแนมดูก็รู้ว่า ในเมืองเกงจิ๋วหาตระเตรียมการไม่ แลยกทหารเตรียมไปรบเมืองอ้วนเสีย แล้วเห็นกวนอูจะยับยั้งให้แผลหายสนิธ จึงจะยกเข้าตีเอาเมืองอ้วนเสีย ลกซุนจึงให้เอาเนื้อความไปแจ้งแก่ซุนกวน

ซุนกวนจึงปรึกษาแกลิบองว่า บัดนี้กวนอูหาแคลงแก่เราไม่ ให้ยกทหารเติมไปตั้งใจจะตีเอาเมืองอ้วนเสียให้ได้ เราคิดว่าจะให้ท่านกับซุนเกียว บุตรของอาว์เรายกไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว ท่านจะเห็นประการใด ลิบองจึงว่า ซึ่งท่านจะใช้ซุนเกียวกับข้าพเจ้าไปทำการด้วยกันนั้น ข้าพเจ้าเห็นขัดสนอยู่ แม้ท่านจะให้ซุนเกียวไปก็ให้ไปแต่ผู้เดียวเถิด ท่านจำไม่ได้หรือ เมื่อครั้งท่านตั้งจิวยี่กับเทียเภาซึ่งเปนคนเก่าของท่าน เปนแม่ทัพซ้ายขวาทำการด้วยกัน แลฝ่ายจิวยี่มีสติปัญญาจะว่าสิ่งใด เทียเภาซึ่งเปนแม่ทัพซ้ายก็ประนอมด้วยปัญญาของจิวยี่ จึงทำการด้วยกันได้ แลบัดนี้ท่านจะให้ข้าพเจ้าไปกับซุนเกียวนั้น ปัญญาข้าพเจ้าหาเหมือนหนึ่งจิวยี่ไม่ สิ่งใดซึ่งจะว่ากล่าวกันนั้นเห็นจะขัดสน แลซุนเกียวนั้นเล่าก็เปนพี่น้องของท่านมีปัญญากล้าแขงอยู่ ขอท่านจงใช้ให้ซุนเกียวไปแต่ผู้เดียวเถิด ก็จะทำได้ไม่ขัดสน

ซุนกวนได้ยินลิบองว่าดังนั้นก็กลับคิดเห็นด้วย จึงตั้งให้ลิบองเปนแม่ทัพหลวง เปนใหญ่กว่าทหารในแว่นแคว้นเมืองกังตั๋ง สำหรับคิดการศึกทั้งปวง จึงตั้งซุนเกียวให้เปนนายทหารกองสเบียงอยู่ในบังคับลิบอง ๆ คำนับซุนกวนแล้ว จึงจัดแจงทหารสามหมื่นลงซุ่มไว้ในเรือแปดสิบลำ จึงให้ทหารซึ่งชำนาญในการเรือนั้นใส่เสื้อขาวทำเปนเพศลูกค้าสำหรับแจวเรือ จึงให้ฮันต๋ง จิวท่าย เจียวขิม จูเหียน พัวเจี้ยง ชีเซ่ง เตงฮอง เปนนายทหารเจ็ดคน ตระเตรียมไว้จะได้ยกไปเมืองเกงจิ๋ว ซึ่งทหารเหลืออยู่มิได้ไปทัพเรือนั้นจะได้ยกกองทัพหนุนไปกับซุนกวน ครั้นจัดแจงทหารทั้งปวงแล้ว จึงให้มีหนังสือไปถึงโจโฉให้เร่งยกกองทัพวกไปตีกวนอูซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองอ้วน เสียนั้นให้ได้ แล้วจึงให้ทหารไปบอกลกซุนว่า บัดนี้การซึ่งคิดกันไว้นั้นเราตระเตรียมกองทัพไว้เสร็จแล้ว ให้ ท่านเร่งรัดจัดแจงให้พร้อมเถิด แล้วก็ยกทัพเรือไปตามแม่นํ้าชิมเอี๋ยง ที่ร้านไฟตำบลแฮเค้า

ฝ่ายทหารชาวด่านร้องถามว่าท่านมาแต่ไหน ทหารลิบองจึงบอกว่า เราเปนลูกค้าสำเภาถูกพายุซัดเข้ามา ลิบองจึงให้เอาสิ่งของขึ้นไปให้ทหารซึ่งรักษาร้านไฟ ๆ ก็เชื่อจึงให้จอดเรืออาศรัยอยู่ที่นั้น ครั้นเวลาประมาณทุ่มเศษ ลิบองจึงให้ทหารซึ่งมาในเรือขึ้นล้อมจับทหารซึ่งรักษาร้านไฟนั้นลงเรือไป สิ้นทุกร้าน แล้วแจวเรือเข้าไปถึงเมืองเกงจิ๋วในเวลากลางคืนวันนั้น ผู้ใดจะได้รู้ว่าลิบองยกทัพเข้ามาหามิได้ ลิบองจึงปลอบเอาใจทหารซึ่งจับมาแต่ร้านไฟนั้นว่า ท่านจงอยู่ทำราชการศึกด้วยเราเถิด เราจะปูนบำเหน็จแก่ท่านให้ถึงขนาด แล้วใช้ให้เรียกชาวเมืองเพื่อนกันนั้นเปิดประตูเมืองรับ

ฝ่ายว่าทหารชาวเมืองไม่ทันสำคัญว่าข้าศึก คิดว่าเพื่อนกันจึงเปิดประตูรับ ลิบองครั้นเห็นดังนั้นก็ให้ทหารเข้าไปโห่ร้องเอาไฟจุดขึ้น หาผู้ใดจะสู้รบมิได้ก็ได้เมืองเกงจิ๋วโดยง่าย ลิบองจึงให้ป่าวร้องแก่กองทัพทั้งปวงว่า ถ้าผู้ใดบังอาจฆ่าฟันแลริบราชบาทว์สิ่งของชาวเมืองให้ได้ความเดือดร้อน เราจะเอาโทษแก่ผู้นั้นถึงตาย บันดาขุนนางทั้งปวงในเมืองเกงจิ๋วนั้นก็ให้คงอยู่ตามตำแหน่ง แลบุตรภรรยาของกวนอูนั้นก็ให้พิทักษ์รักษาไว้หามีผู้ใดทำอันตรายไม่ ลิบองครั้นได้เมืองเกงจิ๋วแล้ว จึงให้ทหารถือหนังสือไปบอกแก่ซุนกวนว่า บัดนี้ข้าพเจ้าตีเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว ขอเชิญท่านยกกองทัพมาเถิด

ครั้นอยู่มาวันหนึ่งลิบองขี่ม้าออกเที่ยวตรวจตราดูบ้านเมือง พอฝนตกหนักแลดูเห็นทหารผู้หนึ่งเข้าช่วงชิงเข้าของชาวเมือง จึงให้พาตัวมาถามว่า มึงเปนพวกไหนจึงมาทำดังนี้ ทหารจึงบอกว่า ข้าพเจ้าเปนพวกกองทัพมาด้วยท่าน ซึ่งข้าพเจ้าช่วงชิงนี้มิได้เอาพัสดุเงินทอง เอาแต่ร่มหมวกจะมากั้นฝน ลิบองจึงว่า เราได้ประกาศไว้แต่หลังว่า มิให้เบียดเบียฬแก่อาณาประชาราษฎรให้ได้ความขัดเคือง แลเองทำดังนี้โทษถึงตาย ทหารผู้นั้นจึงว่า ข้าพเจ้าคิดว่าเสื้อเกราะจะเปียก จึงชิงเอาร่มมากั้นทั้งนี้โทษข้าพเจ้าผิดอยู่แล้ว ขอท่านจงงดโทษข้าพเจ้าครั้งหนึ่งเถิด ลิบองมิฟังก็ให้เอาไปฆ่าเสีย แล้วกลับคิดสงสารให้เอาศพนั้นไปฝังไว้ ฝ่ายทหารทั้งปวงเห็นลิบองทำโทษดังนั้น ก็ย่อท้อหามีผู้ใดจะทำอันตรายแก่ชาวบ้านชาวเมืองแต่สิ่งใดไม่

ซุนกวนครั้นรู้ว่าลิบองได้เมืองเกงจิ๋วแล้วก็ดีใจ เร่งยกทหารติดตามมา ณ เมืองเกงจิ๋ว ฝ่ายลิบองรู้ว่าซุนกวนยกมาถึงแล้ว ก็ออกไปคำนับเชิญเข้ามาในเมือง ซุนกวนจึงตั้งพัวโยยให้เปนผู้รักษาเมืองเกงจิ๋ว จึงให้อิกิ๋มออกจากคุกให้คืนไปเมืองฮูโต๋ แล้วเกลี้ยกล่อมอาณาประชาราษฎรให้อยู่เย็นเปนสุข เลี้ยงดูปูนบำเหน็จแก่ทหารทั้งปวงตามมีความชอบเสร็จแล้ว ซุนกวนจึงว่าแก่ลิบองว่า บัดนี้เราก็ตีเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว ซึ่งเปาสูหยินตั้งอยู่ ณ เมืองกังอั๋น บิฮองตั้งอยู่เมืองลำกุ๋นนั้น เราจะคิดอ่านประการใดจึงจะได้เมืองทั้งสองนี้ จีหลวนได้ยินดังนั้นจึงว่า ท่านจะคิดเอาเมืองกังอั๋นซึ่งเปาสูหยินอยู่นั้น ข้าพเจ้าจะขออาสาไปเอาด้วยลมปากให้มายอมด้วยท่านโดยง่าย มิให้ต้องรบลำบากแก่ทหารทั้งปวงเลย

ซุนกวนจงถามจีหลวนว่า ซึ่งท่านจะไปเอาเมืองกังอั๋นให้ได้ด้วยลมปากนั้น อุบายของท่านประการใด จีหลวนจึงว่า ข้าพเจ้ากับเปาสูหยินนี้รักใคร่กันมาแต่น้อยเปนที่ไว้ใจแก่กัน ข้าพเจ้าจึงคิดเห็นว่า จะว่ากล่าวเกลี้ยกล่อมด้วยอุบายต่างๆก็เห็นจะเชื่อมาเข้าด้วยท่าน ซุนกวนก็ดีใจจึงเกณฑ์ทหารให้แก่จีหลวนห้าร้อย แล้วจีหลวนก็ลาซุนกวนยกไปเมืองกังอั๋น

ฝ่ายว่าเปาสูหยินครั้นรู้ข่าวว่าเมืองเกงจิ๋วเสียทีแก่ข้าศึกแล้วก็ไม่ ไว้ใจ ให้ทหารตระเตรียมเครื่องศัสตราวุธ ปิดประตูเมืองรักษามั่นคงไว้ ฝ่ายจีหลวนมาถึงเมืองกังอั๋นเห็นปิดประตูเมืองมั่นคงอยู่ จะเข้าไปในเมืองมิได้ จึงเขียนหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์แล้วยิงเข้าไปในเมือง หวังจะให้เปาสูหยินรู้

ฝ่ายทหารเปาสูหยินเห็นหนังสือดังนั้นก็พาเอาหนังสือไปให้เปาสูหยินดู ใจความในหนังสือนั้นว่า เราชื่อจีหลวนมาหาท่านโดยดี บัดนี้ซุนกวนซึ่งเปนนายของเราจะยกทหารมารบเอาเมืองท่าน เรานี้คิดถึงท่านนักด้วยเห็นว่าได้เปนเพื่อนสนิธกันมาแต่เล็กอยู่ด้วยกัน นั้น จึงว่ากล่าวอ้อนวอนนายเราไว้มิให้ยกมา แลบัดนี้เรามาว่าท่านให้เร่งไปสมัคอยู่ด้วยนายเรา

ฝ่ายเปาสูหยินแจ้งในหนังสือดังนั้นแล้ว คิดรำพึงว่ากวนอูกับเรานี้มีความพยาบาทกันอยู่เมื่อครั้งเราทำให้เพลิงไหม้ ค่ายครั้งจะยกทัพนั้น ให้ตีโบยเราได้ความเจ็บอาย แล้วว่าจะฆ่าเราเสียให้ได้ บัดนี้ควรเราจะไปสมัคอยู่ด้วยซุนกวนเถิดเห็นจะพ้นภัย ครั้นคิดดังนั้นแล้วจึงสั่งทหารให้เปิดประตูเมือง รับตัวจีหลวนเข้ามาคำนับตามประเพณี จีหลวนจึงว่า อันซุนกวนนายเราประกอบไปด้วยน้ำใจอารีแก่ทหารนัก ถ้าผู้ใดมีสติปัญญาเชี่ยวชาญในการศึก ก็ปูนบำเหน็จรางวัลต่าง ๆ อันพระคุณนั้นหามีผู้ใดเสมอไม่ เปาสูหยินได้ฟังดังนั้นก็ดีใจ จึงสมัคไปเมืองเกงจิ๋วกับจีหลวน

ฝ่ายซุนกวนครั้นรู้ข่าวว่า เปาสูหยินสมัคมาอยู่ด้วยก็ดีใจ จึงให้ทำราชการคงที่อยู่ดังเก่า ครั้นอยู่มาลิบองจึงกระซิบว่ากับซุนกวนว่า อันตัวกวนอูเราก็ยังจับหาได้ไม่ แลท่านจะให้ตั้งเปาสูหยินคงที่อยู่ดังเก่านั้น เห็นว่าเปาสูหยินจะไม่ทำราชการโดยสุจริต ควรท่านจะให้ไปเกลี้ยกล่อมบิฮองซึ่งตั้งอยู่เมืองลำกุ๋นนั้นให้มาสมัคแก่ ท่าน

ซุนกวนเห็นชอบด้วยจึงให้หาเปาสูหยินมาว่า บิฮองซึ่งอยู่ในเมืองลำกุ๋นนั้นก็เปนคนชอบกับท่าน ๆ จงเร่งคิดไปชักชวนเอาตัวมาเข้ากับเรา ๆ จะปูนบำเหน็จแก่ท่าน เปาสูหยินรับคำซุนกวนแล้วก็ลาขึ้นม้าไปเมืองลำกุ๋นกับด้วยทหารม้าสิบม้า

ฝ่ายบิฮองรู้ว่าเมืองเกงจิ๋วเสียแก่ซุนกวนแล้วก็ตกใจ จึงคิดการซึ่งจะรักษาเมืองของตัวไว้ให้มั่นคง พอทหารบอกว่าเปาสูหยินเข้ามา บิฮองเชิญให้เปาสูหยินนั่งที่สมควรแล้วจึงถามว่า ท่านมาบัดนี้ด้วยราชการอันใด

เปาสูหยินแจ้งความไปตามจริงว่า บัดนี้ซุนกวนยกกองทัพมาตีเอาเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว เราเห็นว่ากำลังเขามากจะยกไปต่อด้วยเขามิได้ เราก็สมัคเข้ากับเขาแล้ว อันพระเจ้าเล่าปี่นั้นก็มีพระคุณเปนอันมาก ครั้งนี้เปนจนใจอยู่แล้วมิเข้าด้วยเขาก็จำเข้า อันท่านนี้จะคิดประการใด

บิฮองจึงตอบว่า ตัวเราได้กินน้ำพิพัฒน์สัจจาเปนข้าพระเจ้าเล่าปี่แล้ว แลจะสมัคไปเข้าด้วยซุนกวนนั้นมิบังควร เปาสูหยินจึงตอบว่า เมื่อครั้งก่อนนั้นเรากับท่านกระทำความผิด กวนอูได้คาดโทษแก่เราไว้ว่า ถ้ายกทัพไปมีชัยกลับมาจะฆ่าเราเสีย ครั้งนี้เห็นว่าเราทั้งสองจะไม่พ้นตาย ท่านจงพิเคราะห์ดูเถิด บิฮองจึงว่า ญาติพี่น้องเราก็ทำราชการมาช้านานแล้ว ซึ่งจะคิดคดไปเข้าด้วยข้าศึกนั้นหารู้ที่จะคิดไม่

ขณะนั้นพอทหารกวนอูเข้ามาแจ้งข้อราชการว่า ท่านมาอยู่พร้อมกันทั้งสองก็ดีแล้ว บัดนี้กวนอูให้ท่านทั้งสองเมืองจัดเข้าสเบียงให้ได้หกร้อยเกวียน แล้วให้ท่านทั้งสองเมืองคุมเอาไปส่งถึงด่านอย่าให้ช้า ถ้ามิได้จะเอาโทษท่านถึงตาย ฝ่ายบิฮองครั้นแจ้งดังนั้นจึงแลดูหน้าเปาสูหยินแล้วจึงว่า บัดนี้เมืองเกงจิ๋วซุนกวนเขาก็ตีได้แล้ว แลซึ่งเราจะเอาเข้าลำเลียงไปส่งนั้นก็เห็นขัดสน ด้วยจำเพาะไปทางเมืองเกงจิ๋ว เปาสูหยินจึงร้องด้วยเสียงอันดังว่า อย่าคิดสงสัยมากไปเลย ว่าดังนั้นแล้วก็เอากระบี่ฟันทหารซึ่งมานั้นตายในที่นั้น บิฮองเห็นดังนั้นจึงว่า ท่านมาทำการดังนี้จะคิดประการใด เปาสูหยินจึงว่า อันกวนอูนี้คิดจะแกล้งฆ่าเราทั้งสองเสียจึงให้มาว่าดังนี้ เราจะนิ่งตายอยู่ใยเล่า มาเราจะไปสมัคเข้าด้วยซุนกวนเถิด

ขณะนั้นพอลิบองยกมาถึงเชิงกำแพง บิฮองรู้ก็ตกใจกลัว จึงออกไปกับเปาสูหยินสมัคเข้ากับลิบอง จึงพาเอาตัวบิฮองกับเปาสูหยินไปหาซุนกวน ๆ ก็ดีใจจึงปูนบำเหน็จแก่เปาสูหยินบิฮอง แล้วให้เกลี้ยกล่อมอาณาประชาราษฎรให้อยู่เย็นเปนสุขทั้งสองเมือง

ขณะนั้นโจโฉจึงปรึกษาขุนนางทั้งปวงว่า จะไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว พอซุนกวนใช้ให้ทหารถือหนังสือมาถึงพระเจ้าวุยอ๋อง พระเจ้าวุยอ๋องจึงให้หาเข้ามา ผู้ถือหนังสือคำนับแล้ว ก็ถวายหนังสือแก่พระเจ้าวุยอ๋อง ๆ ดูหนังสือแล้วก็แจ้งเปนใจความว่า บัดนี้ซุนกวนจะยกไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว จะให้เรายกไปตีกระหนาบเอาทัพกวนอู เนื้อความนี้อย่าให้แพร่งพรายเกลือกจะรู้ไปถึงกวนอู ๆ มันจะตระเตรียมตัว พระเจ้าวุยอ๋องแจ้งในหนังสือแล้ว จึงปรึกษาขุนนางทั้งปวง ตังเจี๋ยวสมุห์บาญชีจึงทูลว่า บัดนี้เมืองอ้วนเสียอับจนอยู่แล้ว ควรเราจะให้เอาหนังสือนี้ผูกลูกเกาทัณฑ์ยิงเข้าไปในเมืองอ้วนเสีย โจหยินแลทหารทั้งปวงรู้ในหนังสือนี้ก็จะมีนํ้าใจขึ้นทั้งนั้น

พระเจ้าวุยอ๋องเห็นชอบด้วย ก็ให้ทำตามถ้อยคำตังเจี๋ยว แล้วจึงใช้ให้ทหารรีบไปบอกซิหลงซึ่งตั้งอยู่ที่ทุ่งเอียงลกโผนั้น. ครั้นใช้ให้ทหารไปแล้ว ก็ยกกองทัพหลวงออกไปตั้งอยู่ที่ทุ่งเอียงลกโผ จะคอยช่วยราชการเมืองอ้วนเสีย ฝ่ายซิหลงเห็นทหารเข้ามาจึงถามว่า ท่านมาด้วยราชการอันใด ทหารจึงบอกว่า บัดนี้พระเจ้าวุยอ๋องยกกองทัพออกจากเมืองแล้ว ให้ท่านเร่งยกไปตีกวนอูช่วยแก้เอาเมืองอ้วนเสียไว้

ขณะนั้นพอม้าใช้มาบอกซิหลงว่า บัดนี้กวนเป๋งยกทัพมาตั้งอยู่เมืองเอียนเสีย เลียวฮัวตั้งอยู่ตำบลซูทง กวนเป๋งกับเลียวฮัวสองนายตั้งค่ายชักถึงกันได้สิบสองค่าย ซิหลงได้ยินดังนั้นจึงให้ชีเสียงลิเตียนทหารรองสองนายเอาธงสำคัญของซิหลงยก เข้าตีด้านหน้า ซิหลงนั้นคุมทหารห้าร้อยมาตามทางทิไกซุย เข้าข้างด้านหลัง จะตีเอาเมืองเอียนเสีย

ฝ่ายกวนเป๋งสำคัญว่าธงซิหลงยกมา จึงขึ้นม้าพาทหารออกรบกับชีเสียง พอได้สามเพลงชีเสียงทำเปนหนี ลิเตียนจึงเข้าต่อสู้กวนเป๋งพอได้หกเพลงก็ทำเปนหนี กวนเป๋งได้ทีก็ไล่ตามไปไกลประมาณสองร้อยเส้น ซิหลงเห็นกวนเป๋งไล่ไปไกลค่ายดังนั้นจึงให้ทหารเอาไฟเผาเมือง กวนเป๋งเห็นเพลิงเกิดขึ้นในเมือง จึงรู้ว่าเขาแกล้งทำกลอุบาย จึงยกทหารจะกลับไปดับเพลิงในเมือง พอพบกองทัพซิหลงตั้งสกัดหลังอยู่ ซิหลงเห็นกวนเป๋งกลับมาจึงร้องว่า ตัวท่านไม่พ้นความตายแล้ว บัดนี้ซุนกวนเขาตีเอาเมืองเกงจิ๋วได้ ยังมาลเมอทำการดังนี้

ฝ่ายกวนเป๋งได้ยินซิหลงว่าดังนั้นก็โกรธ จึงควบม้ารำง้าวเข้ารบกับซิหลงยังไม่ทันถึงสามสี่เพลง ทหารซิหลงโห่ร้องขึ้นพร้อมกัน กวนเป๋งเห็นเพลิงไหม้เมืองเอียนเสียขึ้นเปนอันมาก มิอาจที่จะรบต่อไปก็ควบม้าพาทหารหนีมาค่าย

เลียวฮัวซึ่งตั้งอยู่ตำบลซูทงนั้นจึงบอกกับกวนเป๋งว่า บัดนี้เราได้ยินข่าวมาว่า ลิบองยกมาตีเอาเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว ทหารทั้งปวงรู้เนื้อความก็พากันย่อท้อไปสิ้น ถ้าเปนดังนี้เราจะคิดอ่านประการใด กวนเป๋งจึงว่าการทั้งนี้หาจริงไม่ เปนคำข้าศึกล่อลวงหาควรที่จะเจรจาต่อไปไม่ ถ้าผู้ใดขืนว่าดังนี้อีกเราจะเอาโทษถึงตาย

ขณะนั้นพอม้าใช้มาบอกว่า บัดนี้ซิหลงจะยกมาตีเอาค่ายฝ่ายเหนือซึ่งตั้งอยู่ริมแม่นํ้าไกซุยนั้น กวนเป๋งจึงว่า ถ้าค่ายเหนือเสียแก่ข้าศึกแล้ว เห็นว่าค่ายทั้งปวงจะไม่มีสบาย จะขัดสนด้วยเข้านํ้า บัดนี้ควรเราจะยกไปช่วยอย่าให้เสียทีแก่ข้าศึกได้ เลียวฮัวได้ยินดังนั้นจึงจัดแจงทหารให้อยู่รักษาค่ายพอสมควรแล้วสั่งว่า ถ้ามีศึกมาตีจงจุดไฟให้เปนสำคัญ เราจะได้ยกมาช่วยท่าน ทหารจึงตอบว่า อันค่ายซูทงลูกนี้เปนค่ายใหญ่ สนามเพลาะก็แน่นหนา ถึงข้าศึกบินมาก็เข้าไม่ได้ จะกลัวอันใดแก่ข้าศึก กวนเป๋งกับเลียวฮัวได้ยินดังนั้นก็ดีใจ จึงยกทหารไปช่วยค่ายฝ่ายเหนือ ครั้นถึงจึงแลไปดูเห็นว่าค่ายอันหนึ่งตั้งอยู่บนเขาน้อยซึ่งซิหลงทำลวงไว้ นั้น กวนเป๋งจึงปรึกษากับเลียวฮัวว่า ซิหลงมาตั้งค่ายอยู่ที่นี่เปนที่ชอบกล ควรเราจะยกไปปล้นเอาค่ายในเวลากลางคืนวันนี้เห็นจะได้โดยง่าย

ฝ่ายเลียวฮัวจึงว่า ข้าพเจ้าขออยู่รักษาค่าย ท่านจงยกทหารไปทำการเถิด ครั้นเวลาคํ่ากวนเป๋งก็ยกทหารไป เห็นแต่ค่ายเปล่าหามีผู้ใดไม่ ก็เข้าใจว่าแกล้งทำไว้ จึงถอยกลับคืนมาเข้าค่าย ขณะนั้นพอชีเสียงแลลิเตียนยกทหารมาล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน กวนเป๋งกับเลียวฮัวเห็นจะอยู่ในค่ายมิได้ จึงทิ้งค่ายเสียพาทหารหนีมาไกลแล้ว จึงแลเห็นธงสำคัญของซิหลงนั้นปักอยู่หน้าค่ายซูทงก็มิอาจจะเข้าไปได้ จึงกลับมาตามทางใหญ่จะกลับไปค่ายกวนอูซึ่งล้อมเมืองอ้วนเสียอยู่นั้น พอพบซิหลงซึ่งตั้งสกัดอยู่กลางทางก็รบรอกันมา แล้วเข้าในค่ายกวนอูได้ กวนเป๋งจึงเข้าไปแจ้งแก่กวนอูว่า บัดนี้ซิหลงยกมาตีเอาเมืองเอียนเสียได้ แลค่ายทั้งปวงเสียแก่ข้าศึกแล้ว บัดนี้โจโฉยกกองทัพมาเปนสามทางจะมาช่วยเมืองอ้วนเสีย อนึ่งได้ยินว่าลิบองมาตีเอาเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว

กวนอูได้ฟังดังนั้นจึงร้องว่า คำอันนี้หาจริงไม่ เปนคำข้าศึกแกล้งล่อลวงหวังจะให้ทหารเราเสียนํ้าใจ อนึ่งลิบองซึ่งอยู่เมืองกังตั๋งก็ป่วยอยู่ บัดนี้ลกซุนหนุ่มน้อยออกมารักษาค่ายอยู่แทนตัวลิบอง จะวิตกอะไรมี

ขณะนั้นพอม้าใช้เอาข่าวมาบอกว่า บัดนี้ซิหลงยกกองทัพมาถึงแล้ว ฝ่ายกวนอูรู้ว่าซิหลงยกมาจึงให้ตระเตรียมทหารไว้พร้อมว่าจะออกไปรบกับซิหลง กวนเป๋งจึงว่า บิดาสิป่วยอยู่แผลเกาทัณฑ์พึ่งหายสนิธ ซึ่งจะออกไปรบนั้นเห็นไม่ได้ กวนอูจึงว่า ซิหลงนี้ฝีมือชั่วดีก็ย่อมแจ้งกันอยู่ ซิหลงมิถอยขืนยกเข้ามาเราก็จะฆ่าเสีย ให้ทหารทั้งปวงเกรงกลัวจะได้เห็นประจักษ์ไว้ ครั้นว่าดังนั้นแล้วก็ใส่เสื้อเกราะขี่ม้าถือง้าวออกยืนอยู่หน้า

ฝ่ายทหารซิหลงเห็นกวนอูก็คร้ามกลัวทุกคน กวนอูแลไปไม่เห็นซิหลงจึงร้องถามว่า ตัวซิหลงอยู่ไหน ซิหลงขึ้นม้าออกมายืนตรงหน้ากวนอู ทำยอบตัวลงหน่อยหนึ่งแล้วจึงร้องว่าแก่กวนอูว่า แต่ข้าพเจ้าจากมาก็ช้านานหลายปี ท่านนี้หนวดเคราเผ้าผมก็หงอกไปสิ้น สิ่งใดซึ่งท่านได้สั่งสอนให้แต่ก่อน ก็คิดถึงคุณท่านไม่วายวัน อันตัวท่านเปนคนดีมีเกียรติยศในแผ่นดิน ข้าพเจ้าได้เห็นหน้าท่านในวันนี้ความดีใจหาที่สุดมิได้ กวนอูจึงตอบว่า ตัวเรากับท่านแต่ก่อนนั้นก็เปนที่รักใคร่แก่กันหาผู้ใดจะเหมือนมิได้ ครั้งนี้เปนไรท่านจึงมาทำการให้ลูกเราพ่ายแพ้ดังนี้

ซิหลงจึงกลับหน้ามาว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า ถ้าผู้ใดอาจสามารถฆ่ากวนอูได้กูจะให้ทองพันตำลึง กวนอูได้ยินดังนั้นก็ตกใจจึงว่า เปนไรท่านจึงมาว่าดังนี้ ซิหลงจึงตอบว่า เปนทีขบวรสงคราม ถึงจะชอบมีไมตรีต่อกันประการใดก็จำจะทำเอาชัยให้ได้ ซิหลงว่าดังนั้นแล้วก็ขึ้นม้าถือขวานใหญ่ออกมา กวนอูขี่ม้าถือง้าวเข้ารบกันกับซิหลงได้ประมาณแปดสิบเพลง กวนอูชำนาญในขบวรรบหามีผู้ใดจะเปรียบมิได้ แต่ทว่าป่วยไหล่อยู่ทั้งกำลังก็น้อย ซิหลงจึงต้านทานได้

ฝ่ายกวนเป๋งเห็นว่าบิดาป่วยอยู่เกลือกจะสู้ซิหลงมิได้ จึงตีม้าฬ่อสำคัญให้ถอย กวนอูก็ควบม้ากลับมาค่าย ฝ่ายโจหยินซึ่งอยู่ ณ เมืองอ้วนเสีย รู้ว่าพระเจ้าวุยอ๋องยกมาช่วยก็ดีใจ จึงยกทัพออกจากเมืองอ้วนเสียแยกกันไปทั้งสี่ทิศ แล้วให้ทหารโห่ร้องขึ้นพร้อมกัน กวนอูได้ยินเสียงโห่ร้องทั้งสี่ทิศดังนั้นก็ตกใจ โจหยินก็ตีกระหนาบเข้ามา ซิหลงก็ตีกระหนาบเข้ามา ฝ่ายทหารในค่ายก็ตกใจวุ่นวาย กวนอูเห็นจะสู้มิได้ จึงทิ้งค่ายเสียขี่ม้าพาทหารหนีมาตามแม่นํ้าซงกั๋ง ฝ่ายทิศเหนือทหารซิหลงเห็นกวนอูหนีก็ติดตามมา กวนอูก็ข้ามแม่นํ้าซงกั๋งหนีมาตามทางเมืองซงหยง

ขณะนั้นพอม้าใช้เอาเนื้อความมาบอกแก่กวนอูว่า บัดนี้เมืองเกงจิ๋วเสียแก่ลิบองแล้ว ครอบครัวบุตรภรรยาเขาก็จับได้สิ้น กวนอูครั้นแจ้งดังนั้นแล้วก็ตกใจมิอาจจะไปเมืองซงหยงได้ ก็ตรงมาตามทางเมืองกังอั๋น จึงรู้ข่าวว่าเปาสูหยินซึ่งตั้งอยู่เมืองกังอั๋นไปเข้ากับซุนกวนแล้ว กวนอูก็ยิ่งน้อยใจแผลซึ่งถูกเกาทัณฑ์นั้นกลับกระทำพิษยิ่งกว่าเก่า กวนอูก็ตกจากหลังม้าลงสลบอยู่ที่นั้น ทหารทั้งปวงก็แก้ไขกวนอูก็ได้สมประดีขึ้นมา จึงว่าแก่ฮองฮูว่า เปนเหตุทั้งนี้เพราะเรามิฟังคำท่าน กวนอูจึงถามไปแก่ม้าใช้ว่า เมื่อข้าศึกยกเข้ามาเปนไรมิจุดไฟสำคัญขึ้นตามคำเราสั่งไว้

ม้าใช้จึงแจ้งว่า ลิบองแกล้งแปลงเปนลูกค้าเข้ามา จับเอาทหารซึ่งรักษาร้านไฟไปได้สิ้นจึงมิได้จุดเพลิงขึ้น กวนอูได้ฟังดังนั้นกระทืบเท้าถอนใจใหญ่ จึงออกปากว่าเราเสียความคิดแก่ข้าศึกไหนเราจะได้กลับไปเห็นหน้าพระเจ้าเล่า ปี่ได้ เตียวลุยนายกองลำเลียงจึงว่า ครั้งนี้เราก็อับจนอยู่แล้ว ควรเราจะให้ม้าใช้รีบไปเมืองเซงโต๋ขอกองทัพมาช่วย แล้วเราจึงยกขบวรบกไปตีเมืองเกงจิ๋วคืน กวนอูได้ฟังดังนั้นก็เห็นชอบด้วย จึงให้ม้าเลี้ยงกับอิเจี้ยสองนายคุมเอาหนังสือไปเมืองเซงโต๋ ฝ่ายกวนอูคุมทหารจะยกไปรบ ให้กวนเป๋งกับเลียวฮัวเปนทัพหลัง

ฝ่ายโจหยินครั้นมีชัยชนะแล้ว จึงออกมาเฝ้าพระเจ้าวุยอ๋อง ณ กองทัพ แล้วร้องไห้อ้อนวอนขอโทษตัว พระเจ้าวุยอ๋องจึงตรัสแก่โจหยินว่า ซึ่งเปนเหตุดังนี้เปนเคราะห์บ้านเมือง เราหาเอาโทษแก่ท่านไม่ ว่าดังนั้นแล้วประทานรางวัลแก่ทหารทั้งปวงตามมีความชอบ แล้วยกมาอยู่ที่ค่ายซูทง เห็นแน่นหนาหลายชั้นมั่นคงนัก จึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า ค่ายหลายชั้นมั่นคงถึงเพียงนี้ ซิหลงคิดอ่านเอาชัยชนะได้ แต่เราใช้ให้ทหารมาทำศึกถึงสามสิบปีเศษก็มิอาจเอาชนะให้เหมือนซิหลงได้ อันซิหลงนี้เปนคนมีปัญญารู้การซึ่งจะได้จะเสีย ทหารทั้งปวงก็พลอยสรรเสริญซิหลงทุกคน

พระเจ้าวุยอ๋องก็ยกกองทัพกลับไปตั้งอยู่ที่คอโผ ซิหลงครั้นรู้ดังนั้นก็ยกตามไป พระเจ้าวุยอ๋องเห็นซิหลงยกมาก็ออกไปรับซิหลงมาถึงค่าย เห็นซิหลงยกทัพมาจะได้ผิดขบวรหามิได้ พระเจ้าวุยอ๋องเห็นก็ดีพระทัย จงตั้งให้ซิหลงเปนทหารเอกสำหรับปราบข้าศึกทิศใต้ จึงให้แฮหัวซงอยู่รักษาเมืองซงหยงกับซิหลงสำหรับจะได้ต้านทานกวนอู ส่วนพระเจ้าวุยอ๋องก็ตั้งอยู่ที่คอโผ คอยฟังข่าวราชการเมืองเกงจิ๋วจะเปนประการใด

กรุณาแสดงความคิดเห็น

ชื่อ

กวนอู,67,การ์ตูน,19,การเมือง,77,กิจกรรม,18,เกม,160,ขงเบ้ง,94,ของสะสม,40,ข่าวสาร,118,คำคมสามก๊ก,77,จิวยี่,5,จูล่ง,21,โจโฉ,66,ซุนกวน,7,เตียวหุย,11,เนื้อหาสามก๊ก,5,บทความ,353,บุคคลภาษิตในสามก๊ก,12,แบบเรียน,8,ปรัชญา,45,เพลง,41,ภาพยนตร์,53,รูปภาพ,67,ลิโป้,9,เล่าปี่,18,วิดีโอ,66,วิธีคิดวิธีทำงาน,13,เว็บไซต์,14,สถานที่,21,สามก๊ก12,14,สามก๊ก13,32,สามก๊ก14,3,สามก๊ก2010,95,สามก๊ก8,1,สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน),87,สุมาอี้,15,หงสาจอมราชันย์,13,หนังสือ,173,อาวุธ,7,แอป,43,Dynasty Warriors,57,E-book,87,
ltr
item
สามก๊กวิทยา : Three Kingdoms Academy: สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 60
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 60
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 60
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhH6whm0m5DCS-8skDWRgMawL9LIGlvKJpnOF0-HjAAecQ3wKTLxfwim195h7_aSC-6R8MbX0cGU6uNjrEbo2FDsrkBIEr2w63EVqwOaF1dc1wHHg_JDbp1pjrUGWsebWKF9M6_M5iMjO0/s640/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588-%25E0%25B9%2596%25E0%25B9%2590.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhH6whm0m5DCS-8skDWRgMawL9LIGlvKJpnOF0-HjAAecQ3wKTLxfwim195h7_aSC-6R8MbX0cGU6uNjrEbo2FDsrkBIEr2w63EVqwOaF1dc1wHHg_JDbp1pjrUGWsebWKF9M6_M5iMjO0/s72-c/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588-%25E0%25B9%2596%25E0%25B9%2590.jpg
สามก๊กวิทยา : Three Kingdoms Academy
https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-60.html
https://www.samkok911.com/
https://www.samkok911.com/
https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-60.html
true
4216477688648787518
UTF-8
โหลดเนื้อหาทั้งหมด ไม่พบเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ดูทั้งหมด อ่านเพิ่ม ตอบ ยกเลิกการตอบ ลบ โดย หน้าแรก หน้า โพสต์ ดูทั้งหมด เรื่องแนะนำสำหรับคุณ หมวดหมู่บทความ เนื้อหาในช่วงเวลา ค้นหา บทความทั้งหมด ไม่พบเนื้อหาที่คุณต้องการ กลับหน้าแรก Sunday Monday Tuesday Wednesday Thursday Friday Saturday Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat January February March April May June July August September October November December Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec just now 1 minute ago $$1$$ minutes ago 1 hour ago $$1$$ hours ago Yesterday $$1$$ days ago $$1$$ weeks ago more than 5 weeks ago Followers Follow THIS PREMIUM CONTENT IS LOCKED STEP 1: Share to a social network STEP 2: Click the link on your social network Copy All Code Select All Code All codes were copied to your clipboard Can not copy the codes / texts, please press [CTRL]+[C] (or CMD+C with Mac) to copy สารบัญ